Last updated: 8 ก.ย. 2565 | 4177 จำนวนผู้เข้าชม |
อาหารทอด เป็นประเภทอาหารที่ได้รับความนิยมของคนไทย ทั้งการบริโภคและผลิตเพื่อ
จำหน่าย การทอดอาหารไม่เพียงแค่วิธีการประกอบอาหารเท่านั้น แต่ยังเป็นวิทยาศาสตร์ที่มีตัวแปรหรือปัจจัยต่าง ๆ เกี่ยวข้องตลอดกระบวนการ หากมีปัจจัยใดเปลี่ยนแปลงไปก็จะส่งผลให้คุณภาพของผลิตภัณฑ์ หรืออาหารทอดเมนูนั้น เปลี่ยนแปลงไปด้วย ตัวอย่างเช่น ชนิดน้ำมันทอดอาหาร อุณหภูมิทอดอาหาร ระยะเวลาทอดอาหาร การเก็บและบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลต่อคุณภาพของอาหารทอดทั้งสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมันที่เป็นปัจจัยสำคัญในการประกอบอาหารที่มีทั้งคุณและโทษ ดังนั้นการบริโภคอาหารทอดไม่ให้เสียสุขภาพ มีแนวทางปฏิบัติ ดังนี้
1. ทำอาหารทานเอง
การทำอาหารทานเอง เป็นวิธีบริโภคอาหารทอดที่ปลอดภัยได้มากกว่าการซื้ออาหารทอด
สำเร็จรูปมารับประทาน เนื่องจากสามารถคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพดี มีประโยชน์และปลอดภัยมาประกอบอาหารเองได้ เช่น การเลือกใช้น้ำมันที่เหมาะสม เป็นต้น
2. เลือกน้ำมันดีมีประโยชน์
การเลือกน้ำมันทอดหรือนำมาประกอบอาหาร หากเลือกน้ำมันดีมีประโยชน์ก็จะทำให้ดีต่อ
สุขภาพ เนื่องจากน้ำมันแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติที่เหมาะสมต่อการประกอบอาหารแต่ละประเภทแตกต่างกัน จึงควรเลือกใช้น้ำมันให้เหมาะสมกับวิธีการประกอบอาหาร เช่น
- น้ำมันมะกอก เหมาะสำหรับใช้ประกอบอาหารประเภทสลัด/ผัด
- น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันคาโนลา น้ำมันมะกอก น้ำมันเมล็ดอัลมอนด์ น้ำมันงา น้ำมันเมล็ดฝ้าย
น้ำมันข้าวโพด ใช้ประกอบอาหารประเภทผัด หรืออาหารทอดทั่วไปที่ใช้ความร้อนไม่สูงมาก
- น้ำมันมะพร้าว ใช้ประกอบอาหารประเภทผัด หรืออาหารประเภททอดทั่วไป แต่ไม่เหมาะ
สำหรับคนที่มีคอเลสเตอรอลสูง
- น้ำมันปาล์ม ใช้ประกอบอาหารประเภททอดที่อุณหภูมิสูง
3. ใช้อุณหภูมิทอดอาหารที่เหมาะสม
อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการทอดอาหารให้อร่อย ไม่อมน้ำมันคือประมาณ 180 องศา
เซลเซียส โดยวิธีสังเกตว่าน้ำมันร้อนพร้อมทอดแล้วหรือไม่ ทำโดยจุ่มตะเกียบไม้ลงไปในน้ำมัน ถ้าเกิดฟองอากาศรอบ ๆ ตะเกียบแสดงว่าใช้ได้แล้ว แต่การทอดต่อเนื่องเป็นเวลานาน ๆ นั้น จะทำให้น้ำมันมีอุณหภูมิที่สูงเกินกว่า 180 องศาเซลเซียส ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยจากควันน้ำมันซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพปอด จึงควรเลือกใช้น้ำมันที่มีจุดเกิดควันสูง หมายถึง น้ำมันที่สามารถทนต่อความร้อนได้สูงนั่นเอง
4. หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันทอดซ้ำ
การบริโภคอาหารทอด ไม่ให้เสียสุขภาพ น้ำมันที่ใช้ทอดอาหารซ้ำหลาย ๆ ครั้ง จะเกิดการ
เสื่อมสภาพ มีสารก่อมะเร็งสูง และยังทำให้อาหารเสียรสชาติอีกด้วย จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันทอดซ้ำในการทอดอาหารเพื่อบริโภค
5. รับประทานผัก และผลไม้ควบคู่กับอาหารทอด
การบริโภคอาหารทอดที่ไม่ให้เสียสุขภาพ และยังไม่รู้สึกเลี่ยนจากน้ำมัน ได้แก่การเติมผัก หรือ
รับประทานอาหารทอดควบคู่ไปกับผักและผลไม้ในมื้ออาหารทอด จะเป็นการเพิ่มไฟเบอร์ที่ช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลในร่างกาย และยังช่วยเพิ่มกากใยทำให้ขับถ่ายได้สะดวกอีกด้วย
สำหรับเมนูอาหารทอดนอกจากการทำรับประทานเองในครอบครัวแล้ว เมนูของทอดยังมี
หลากหลายที่ผู้บริโภคนิยมรับประทาน ไม่ว่าจะเป็นของทอดที่รับประทานเป็นอาหารหลัก อาหารว่าง หรือของทานเล่น การยืดอายุการเก็บรักษาอาหารทอดจึงเป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยรักษารสชาติและคุณภาพของอาหารทอดและผลิตภัณฑ์อาหารทอดให้คงคุณภาพไว้ได้นาน เช่น
1. การปรับปรุงกระบวนการผลิต โดยการปรับปรุงกระบวนการผลิตบางขั้นตอน จะช่วยให้สินค้า
มีคุณภาพดีขึ้นและสามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น ตัวอย่างเช่น
- การทอดแบบสุญญากาศ เป็นเทคโนโลยีการทอดที่ทำให้น้ำมันเดือดที่อุณหภูมิต่ำกว่า 100
องศาเซลเซียส และทำให้น้ำระเหยออกจากชิ้นอาหารที่อุณหภูมิต่ำ การทอดด้วยเทคโนโลยีนี้จะสามารถรักษาคุณภาพของอาหารทั้งสี กลิ่น รสชาติ และคุณค่าทางโภชนาการได้ดีกว่าการทอดในสภาวะบรรยากาศปกติที่ต้องใช้ความร้อนสูงและระยะเวลานานซึ่งเป็นผลเสียต่อผลิตภัณฑ์ โดยการทอดแบบสุญญากาศเป็นวิธีที่เหมาะสาหรับการแปรรูปผลิตภัณฑ์ผักและผลไม้ทอดกรอบ
- การเลือกใช้น้ำมันที่มีไขมันอิ่มตัวต่ำ การใช้น้ำมันที่มีไขมันอิ่มตัวต่ำในการทอด
- อาหาร จะทำให้เกิดการหืนได้ช้ากว่าการใช้น้ำมันที่มีไขมันอิ่มตัวปริมาณสูง
- การทอดอาหารด้วยระยะเวลาที่เหมาะสม น้ำมันที่ใช้ทอดอาหารเป็นระยะเวลานาน
จะมีคุณภาพลดลง ทำให้อาหารมีสีเข้ม และน้ำมันเกาะบนอาหารมากกว่าปกติ เนื่องจากน้ำมันมีความหนืดเพิ่มขึ้น จึงควรหลีกเลี่ยงการทอดอาหารที่ใช้ระยะเวลานานเกินความจำเป็น
- การลดปริมาณน้ำอิสระในอาหาร สามารถช่วยลดการเสื่อมสภาพของอาหารจาก
ปฏิกิริยาเคมีและเชื้อจุลินทรีย์ได้
- การใช้สารเคมีในการยืดอายุอาหาร เป็นการผสมสารเคมีในอาหารหรือบรรจุไว้ใน
บรรจุภัณฑ์ เพื่อยับยั้งปฏิกิริยาที่ทำให้อาหารเสื่อมคุณภาพ
2. การเลือกวิธีบรรจุอาหาร วิธีการบรรจุอาหารที่เปลี่ยนแปลงบรรยากาศภายในบรรจุภัณฑ์โดย
การพ่นแก๊สไนโตรเจนเข้าไปแทนอากาศเพื่อกำจัดหรือลดปริมาณแก๊สออกซิเจน หรือการใส่วัตถุดูดซับแก๊สออกซิเจนเข้าไปในบรรจุภัณฑ์ หรือใช้ทั้งสองวิธีร่วมกันเป็นวิธีที่ใช้บรรจุอาหารทอดเพื่อป้องกันการเกิดกลิ่นหืน ซึ่งแก๊สไนโตรเจนเป็นแก๊สที่ไม่มีสี กลิ่น รส ไม่เกิดปฏิกิริยากับอาหาร และมีความปลอดภัยกับผู้บริโภค ส่วนใหญ่การบรรจุอาหารแบบปรับแต่งบรรยากาศนี้จะใช้ควบคู่กับการเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำกว่าอุณหภูมิปกติ
3. การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า บรรจุภัณฑ์ที่
เหมาะสมในการบรรจุอาหารทอด ควรมีคุณสมบัติดังนี้
- สามารถป้องกันการซึมผ่านของความชื้นได้
- สามารถป้องกันการซึมผ่านของไขมันได้ ทำให้ไม่มีคราบน้ำมันซึมออกมาเกาะติดอยู่
ที่ผิวนอกของถุงบรรจุภัณฑ์
ไก่ทอด เป็นอาหารที่มีอยู่ในแทบทุกวัฒนธรรมการบริโภค และไก่ยังถือเป็นแหล่งโปรตีนหลัก
ที่เหมาะสำหรับผู้บริโภคทุกรุ่นทุกวัย เป็นเมนูอาหารที่ทำง่าย เพียงเนื้อไก่ ไปคลุกกับแป้งและส่วนผสมอื่น ๆ จากนั้นนำไปทอด อาจด้วยวิธีการทอดน้ำมันท่วม น้ำมันน้อย หรือการทอดด้วยความดัน ผิวนอกของไก่ทอดจะกรอบ ส่วนของไก่ที่นำมาทำไก่ทอดอาจเป็นน่อง ปีก อก หรือเนื้อไก่ที่หั่นเป็นชิ้น ๆ อาจมีหนัง มีกระดูกหรือเลาะกระดูกออกก่อน รูปแบบของไก่ทอดนั้นไม่ตายตัว โดยขึ้นอยู่กับสูตร ส่วนผสม และกรรมวิธีการปรุง
ความเป็นมาขอเมนูไก่ทอดหรือไก่ชุบแป้งทอด จากหลักฐานเชื่อกันว่าเริ่มจากในสก็อตแลนด์
ได้มีการค้นพบว่า วัฒนธรรมการเอาของมาทอดด้วยการใช้ไขมันนั้น มีมาตั้งแต่สมัยยุคกลางแล้ว ซึ่งเป็นเมนูยอดฮิตของคนที่ฐานะไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เนื่องจากในยุคนั้น เนื้อหมู หรือเนื้อวัว มีราคาที่ค่อนข้างจะสูง ผู้ที่มีฐานะยากจนในสก็อตแลนด์ จึงนิยมล่านก หรือสัตว์ปีก มาทำเป็นอาหารด้วยการทอดจากไขมันแทน เพราะหาได้ง่ายกว่ากว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่น และมีขั้นตอนการทำที่สะดวกรวดเร็วกว่า
ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 18-19 ยุคสมัยที่มีการค้าทาส และการอพยพเข้าสู่ดินแดนแห่งใหม่ จากชาวยุโรปมากขึ้น วัฒนธรรมไก่ทอด ได้ถูกนำเข้ามาเผยแพร่ให้แก่กลุ่มคนชนชั้นแรงงาน ที่ต้องทำงานให้กับชนชั้นนายทุนแบบฟรีๆ ในทางตอนใต้ของสหรัฐฯ เพื่อเป็นอาหารประทังชีวิต และมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์หลายชิ้น ได้ระบุว่า ชาวสก็อตแลนด์ในช่วงยุคกลาง เป็นชาติที่นิยมทำเมนูของทอด มากที่สุด
ไก่ทอดเมนูตำรับ เป็นการนำสัตว์ปีกมาถอนขน หั่นเป็นส่วน ๆ แล้วนำไปคลุกเครื่องเทศแห้ง ๆ
คลุกแป้ง แล้วจึงนำไปทอดในไขมันสัตว์ร้อน ๆ โดยในยุคสมัยนั้นจะนิยมใช้ไขมันของหมูป่ามาเจียวเป็นน้ำมัน แต่ในขณะเดียวกัน ทางฝั่งแถบแอฟริกาตะวันตก จะนิยมการนำสัตว์ปีกไปคลุกแป้ง จากนั้นจึงนำไปทอดในน้ำมันปาล์มแค่ให้พอเหลืองๆ แล้วจึงนำไปเคี่ยวกับน้ำซุปจนเปื่อย
ต่อมาในช่วงประมาณศตวรรษที่ 17-19 ผลลัพธ์จากลัทธิจักรวรรดินิยมนำมาซึ่งการค้าทาสชาว
แอฟริกัน การผสมผสานของสูตรเมนูไก่ทอดจึงเกิดขึ้นระหว่าง สูตรของนายทาสผิวขาวชาวสก็อตกับสูตรของทาสผิวสีชาวแอฟริกัน โดยการฟิวชั่นสูตรอาหารดังกล่าวเกิดขึ้นบนแผ่นดินแห่งทวีปอเมริกาเหนือทางตอนใต้ สูตรไก่ทอดแของทางใต้ คือการนำเนื้อไก่ไปหมักกับเครื่องให้ชุ่มฉ่ำก่อน แล้วค่อยนำมาคลุกกับแป้งที่ผสมเครื่องเทศทีหลัง จากนั้นจึงนำไปทอดในน้ำมันปาล์มจนเหลืองกรอบ เป็นสูตรสำเร็จที่ผสมผสานระหว่างสูตรของสก็อตกับสูตรของแอฟริกัน
การพัฒนาของไก่ทอด และเมนูไก่ชุบแป้งทอดมีการพัฒนาสูตรและผลิตจำหน่าย ภายหลังจากมีการปฏิวัติอุตสาหกรรม การเลี้ยงไก่จำนวนมากในเชิงอุตสาหกรรมจึงเกิดขึ้น เมนูไก่ทอดชาวใต้ก็กลายเป็นที่นิยมไปทั่วโลกในช่วงปี 1950-1970 โดยคนที่ใครๆล้วนรู้จักกันดีซึ่งก็คือผู้พันแซนเดอร์ ผู้คิดค้นสูตรไก่ทอดชื่อดังและได้ถูกซื้อลิขสิทธิ์จนกลายมาเป็น chain restaurant มหาอำนาจอย่าง KFC ในภายหลังนั่นเอง
ส่วนผสม (การหมักไก่ )
ไก่ 800 กรัม
น้ำตาล 1 ชต.
พริกไทยป่น (ถ้าทำให้เด็กทานลดปริมาณลงหรือไม่ใส่ก็ได้) 1 ชต.
ผงกระเทียม 1 ชต.
พริกป่นเกาหลี/ผงปาปริก้า (ส่วนนี้ทำให้เด็กทานไม่ต้องใส่)
เกลือป่น 1 1/2
ส่วนแป้งสำหรับชุปทอด
แป้งสาลี อนกประสงค์ 1 1/2 ถ้วย
เกลือ 1/4 ชช.
แป้งทอดกรอบ/แป้งข้าวโพด 1/4 ถต.
ผง (กระเทียม) 1/2 ชช.
พริกป่น (ทำให้เด็กทานไม่ต้องใส่) 1/2 ชต.
น้ำมันสำหรับทอด
น้ำเปล่าสำหรับชุปทอด
วิธีทำ
1. นำเกลือป่น+น้ำตาล+พริกไทยป่น+ผงกระเทียม+พริกป่นเกาหลี/ผงปาปริก้า ผสมให้
เข้ากัน จากนั้นใส่ลงไปบนเนื้อไก่ที่เราเตรียมไว้ คนคลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน พักไว้อย่างน้อย 3 ชม.หรือพักทิ้งไว้ในตู้เย็น 1 คืน
2. นำไก่ที่หมักได้ที่แล้ว มาชุปแป้งที่เราผสมไว้ แป้งสาลีอนกประสงค์+แป้งทอดกรอบ
(แป้งข้าวโพด)+เกลือป่น+ผงปาปริก้าหรือพริกป่นเกาหลี (ถ้าทำให้เด็กทานไม่ใส่ก็ได้)จากนั้นนำไปชุปในน้ำเย็นจัด แล้วนำมาชุปแป้งอีกรอบ ใครอยากได้แป้งหนาๆสามารถทำแบบเดียวกันได้หลายรอบตามต้องการ
3. เมื่อน้ำมันร้อนได้ที่นำไก่ลงไปทอดให้สุก ให้มีสีเหลืองทอง
4. พักสะเด็ดน้ำมัน
5. จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟคู่กับซอสพริกกับมายองเนส
ส่วนผสม
ปีกไก่ 500 กรัม
รสดีไก่ 1 ช้อนชา
แป้งทอดกรอบ 3 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเย็น 4 ช้อนโต๊ะ
ซอสเคลือบไก่สูตรกระเทียม
ซอสเคลือบไก่สูตรพริกเกาหลี
น้ำมันพืชสำหรับทอด
วิธีทำ
1. หมักไก่ด้วยรสดีไก่ แป้งทอดกรอบ พริกไทยป่น และน้ำเย็น ผสมให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้1 คืน
2. ทอดไก่ในน้ำมันท่วมใช้ไฟอ่อน - กลาง หนังจะได้กรอบ นุ่มใน ทอดเสร็จก็นำซอส เคลือบบีบใส่ในภาชนะลงบนปีกไก่ที่ทอดเสร็จแล้ว คลุกเคล้าให้ทั่วฉ่ำๆ
3. จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
ส่วนผสม
เนื้อไก่ ส่วนปีกหรือน่องตามชอบ
น้ำมันพืช
แป้งสำหรับชุปไก่ทอด
ผงปรุงรสไก่ 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. ล้างเนื้อไก่ให้สะอาดพักทิ้งไว้
2. หมักเนื้อไก่คลุกเคล้าผงปรุงรสไก่ 1 ช้อนโต๊ะ หมักทิ้งไว้ 2 - 5 นาที
3. ผสมแป้งเข้ากับน้ำแล้วนำเนื้อไก่มาคลุกกับแป้งไว้ (รอบที่ 1) พักไว้อีกครู่นึงนำเนื้อไก่ มาคลุกแป้งสำหรับทอดอีกรอบ (รอบที่ 2)
4. เปิดไฟตั้งกระทะเทน้ำมันลงไปรอให้ร้อนโดยใช้ไฟกลาง ๆ (ไฟแรงเดี๋ยวไก่ไหม้นอกในไม่สุก) เมื่อน้ำมันร้อนแล้วให้นำเนื้อไก่ลงไปทอดให้สุกกรอบนอกสีเหลืองสวย เนื้อในนุ่ม
5. พักไก่ทอดมาไว้เตรียมสำหรับคลุกซอสเคลือบไก่โดยเทซอสเคลือบไก่ไว้บนภาชนะ
และนำไก่ทอดมาคลุกเคล้าเข้ากับซอสเคลือบไก่สูตรพริกเกาหลี, สูตรกระเทียม เสิร์ฟใส่จานพร้อมทานอร่อยง่าย ๆ ด้วยซอสเคลือบไก่สไตล์เกาหลีของ PURE FOODS
ส่วนผสม ไก่กรอบซอสเกาหลี
ไก่ (ส่วนที่ชอบ) 1 กิโลกรัม
ไข่ไก่ 1 ฟอง
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ (ประมาณ 3-4 กลีบ)
งาขาวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสม เครื่องปรุง (ของแห้ง)
ผงกระเทียม 1 ช้อนชา
เกลือ 1/2 ช้อนชา
พริกไทยดำบดหยาบ 1/2 ช้อนชา
แป้งทอดกรอบ 1 ถ้วยตวง
แป้งมัน 1 ถ้วยตวง
ผงฟู 1 ช้อนชา ส่วนผสม เครื่องปรุง (ของเหลว)
น้ำมันพืช 1/2 ถ้วยตวง
น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสมะเขือเทศ 1/2 ถ้วยตวง
โคชูจัง 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำผึ้ง 6 ช้อนโต๊ะ (1/4 ถ้วยตวง+2 ช้อนโต๊ะ)
วิธีทำไก่กรอบซอสเกาหลี
1. หมักไก่ด้วยเกลือ ผงกระเทียม และพริกไทยดำ พักทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมง ตอกไข่ใส่ไก่ที่หมักไว้ คลุกให้เข้ากัน
2. นำแป้งทอดกรอบ แป้งมัน และผงฟูผสมรวมกัน นำไก่ลงมาคลุกให้ทั่ว (คลุกทีละชิ้น อย่าใส่ลงไปในชามไก่ที่หมัก) วางไก่ที่คลุกแป้งแล้วบนตะแกรงแล้วทาน้ำมันพืชลงไปบนไก่
3. นำไปอบด้วยหม้ออบลมร้อน ใช้ไฟแรง 250 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10 นาที แล้วกลับด้านไก่อบอีก 10 นาที พอครบเวลากลับด้านไก่อีกรอบ แล้วอบต่ออีก 10 นาที เป็นอันเสร็จ (รวมเวลาอบทั้งหมด 30 นาที) หรือใครจะนำไปทอดด้วยน้ำมันก็ได้ พอไก่จวนสุก (10 นาทีสุดท้าย) เราก็มาทำซอสกัน
4. ทำซอสโดยนำกระเทียมสับใส่ลงในชามทนไฟ ใส่น้ำมันพืชลงไป 1 ช้อนโต๊ะ ปิดฝาแล้วนำเข้าไมโครเวฟไฟแรง 800 วัตต์ เวลา 2 นาที จากนั้นก็ใส่ซอสมะเขือเทศ โคชูจัง น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล และน้ำผึ้งลงไป คนให้เข้ากัน แล้วนำเข้าไมโครเวฟต่ออีก 2 นาที เป็นอันเสร็จ
5. นำไก่อบสุกแล้ว มาคลุกกับซอส โรยงาขาวลงไป เป็นอันเสร็จ
ส่วนผสม ไก่ทอดซอสเกาหลีชีส
ปีกไก่ 9 ชิ้น (จำนวนปีกไก่เพิ่มหรือลดได้ตามต้องการ)
แป้งทอดกรอบ
น้ำมันหอย 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
ซอสโคชูจังกระป๋องแดง 2 ช้อนโต๊ะ (ถ้าไม่มีใส่เป็นผงปาปริก้าแทนได้)
มะนาวหั่น 1 ชิ้น
น้ำเปล่า 1 แก้ว (แก้วเป๊ก)
กระเทียมสับละเอียด 2 หัว
หอมหัวใหญ่สับละเอียด 1/4 หัว
ชีส
ต้นหอมซอย 1 ต้น
วิธีทำไก่ทอดบอนชอน
1. เอาไก่ไปคลุกแป้งทอดกรอบ โดยให้คลุก 2 รอบ รอบแรกคลุกแล้วพักไว้ประมาณ 10 นาที (สาเหตุที่ต้องพักไว้ก่อนเพราะน้ำในไก่จะออกมา) เมื่อครบ 10 นาทีแล้วจะเห็นว่าน้ำในไก่จะออกมา และแป้งจะชื้น ๆ ให้เอาไก่ไปคลุกแป้งรอบ 2 เพื่อให้แป้งติดไก่ จะทำให้ไก่ที่ทอดออกมากรอบนอกนุ่มใน 2. ตั้งกระทะใช้ไฟกลาง เทน้ำมันลงไป พอน้ำมันร้อนก็หย่อนไก่ลงไป โดยเราจะทอดไก่ 2 รอบ เพราะจะทำให้ไก่กรอบ แม้เอามาคลุกซอสแล้วก็ยังมีความกรอบอร่อย ทอดไก่ให้ออกเหลืองกรอบแล้วตักขึ้นมาพักไว้ให้เย็น
3. พอไก่เย็นแล้วให้ตั้งกระทะทอดอีกครั้งนะจ๊ะ รอบสองไม่ต้องทอดนานเพราะไก่สุกแล้ว แค่ทอดจนแป้งเหลืองขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย ตักขึ้นมาพักไว้
4. ทำซอสคลุกไก่ โดยผสมน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว น้ำผึ้ง ซอสโคชูจัง น้ำมะนาว และน้ำเปล่า คนให้เข้ากัน จะได้ซอสสีแดง
5. ตั้งกระทะอีกรอบใส่น้ำมันนิดหน่อย พอกระทะร้อนให้เอากระเทียมสับกับหอมหัวใหญ่สับลงไป ผัดให้หอมหัวใหญ่สุกใส เทซอสลงไป เคี่ยวให้ข้น พอซอสข้นแล้วใส่ชีสลงไป ใส่ไก่ทอด คลุกผสมให้ทั่วจนชีสละลาย ตักใส่จาน โรยต้นหอม
สำหรับคนที่ชื่นชอบการทำอาหารรับประทานเอง ไก่ทอดเป็นเมนูอาหารที่ทำง่าย และมี
โภชนาการสูง สามารถเป็นอาหารจานโปรดของทุกคนในครอบครัวได้ไม่ยาก เพียงมีผลิตภัณฑ์ซอสเคลือบไก่จาก เพียวฟู้ดส์ เมนูไก่ทอดก็ทำได้ไม่ยาก ส่วนวัตถุดิบหรือส่วนประกอบสำหรับเมนูไก่ทอด ก็สามารถหาซื้อได้ไม่ยาก เนื่องจากผลิตภัณฑ์หรือสินค้าปรุงสำเร็จจากเพียวฟู้ดส์ มีให้เลือกมากมาย หากมีคำถามว่าทำไมต้องเป็นซอสเคลือบไก่จากเพียวฟู้ดส์ คำตอบก็คือ
- เพียวฟู้ดส์ เป็นบริษัทชั้นนำ เชี่ยวชาญด้านการผลิต สลัด ซอสคาว ซอสหวาน มายองเนส
และซอสฟิซซ่าทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ
- เป็นบริษัทที่มีกำลังการผลิต 18000 ตันต่อปี จากการผลิตจำนวนมาก ทำให้ผลิตภัณฑ์และสินค้าของเพียวฟู้ตส์ เป็นสินค้าคุณภาพ ในราคามาตรฐาน
- มีทีมวิจัยที่ทำให้บริษัทพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
- และการผลิตที่ทันสมัย
- เพียวฟู้ดส์ เป็นบริษัทชั้นนำที่นอกจากมีผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปออกมาจำหน่ายแล้ว ยังรับผลิต
สินค้าให้ผู้ประกอบการหลากหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มมายองเนส กลุ่มซอส กลุ่มน้ำจิ้ม กลุ่มชาบู สุกี้ หม้อร้อน ซอสฟิซซ่า ซอสเคลือบไก่ และอื่น ๆ อีกมากมาย
การรับประทานอาหารที่ต้องใช้น้ำมันในการทอด ปรุง หรือใช้เป็นส่วนประกอบใน
เมนูอาหารนั้น ๆ เพื่อให้ได้อาหารที่มีคุณภาพ และมีคุณค่าทางโภชนาการเป็นอาหารทอดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย นอกจากการเลือกน้ำมันพืชหรือน้ำมันที่ใช้ทอดได้เหมาะกับประเภทของอาหาร แล้ว การเพิ่มรสชาติให้กับอาหารทอด การเลือกผลิตภัณฑ์ปรุงรสที่มีคุณภาพ ก็ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญที่จะช่วยให้เมนูของทอด เมนูไก่ทอด กรอบอร่อย ไม่ดูดซับน้ำมัน สำหรับคนที่ชื่นชอบเมนูไก่ทอด และมีฝีมือในการทำอาหารทานเองที่บ้าน ซอสเคลือบไก่จากเพรียวฟุ้ดส์ ตอบโจทย์เมนูอาหารของคุณได้มากที่สุด